มะม่วงอกร่อง (okrong)
มะม่วงอกร่อง (okrong) วงศ์ Anacardiaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mangifera indica Linn.ลักษณะเด่นของผลมะม่วงอกร่อง ลำต้นเพลาตรง สูงปานกลาง แตกทรงพุ่มหนาทึบเป็นรูปฉัตร ผลมีรูปไข่ ผลส่วนบนใหญ่ และคอดเล็กลงด้านล่างได้สมส่วน เปลือกผลค่อนข้างบาง ผลสุกมีสีเหลืองครีมหรือเหลืองอมส้ม เนื้อผลมีสีเหลืองอมขาวหรือเหลืองครีม เนื้อนุ่ม ฉ่ำด้วยน้ำหวาน เมล็ดมีเสี้ยนติด แทรกเข้ามาในเนื้อผล มีรสหวานมากกว่ามะม่วงทุกชนิด แม้ผลดิบที่ยังไม่แก่มาก หากนำมาบ่มก็ยังให้รสหวานจัดได้
การปลูกมะม่วงอกร่อง
มะม่วงอกร่อง เป็นที่นิยมปลูกในทุกครัวเรือน ส่วนมากปลูกเพื่อรับประทานเอง ทั้งในพื้นที่ว่างของบ้าน และตามหัวไร่ปลายนา แต่ก็พบการปลูกในแปลงใหญ่เพื่อการค้าบ้าง
ลักษณะเด่นมะม่วงอกร่อง
- ติดผลดก มีอายุยืนยาว
- ทนแล้งได้ดี
- เติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน
- โตเร็ว
- ทนต่อโรค และแมลง
ลักษณะด้อยมะม่วงอกร่อง
- ต้นที่ปลูกจากเมล็ดมีความสูงมาก แตกทรงพุ่มใหญ่
- ผลสุกมีเสี้ยนค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับมะม่วงชนิดอื่น
- เปลือกผลสุกบาง ทำให้ซ้ำง่ายเวลาขนส่ง
รูปแบบการปลูกมะม่วงอกร่อง
- การปลูกเพื่อรับประทานเอง
การปลุกมะม่วงอกร่องรูปแบบนี้ พบได้ทั่วไปในทุกภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อรับประทานผล และให้ร่มเงาเป็นหลัก โดยมักปลูกตามบ้าน และหัวไร่ปลายนาเพียงไม่กี่ต้น ทั้งใช้ต้นพันธุ์จากการเพาะเมล็ดหรือต้นพันธุ์จากการตอนกิ่งหรือการเสียบยอด เกษตรกรมักปลูกในต้นฤดูฝน หลังปลูกปล่อยให้เติบโคตามธรรมชาติ ไม่ต้องการดูแลมาก เพียงทำไม้ปักล้อมสำหรับป้องกันสัตว์แทะเล็มก็เพียงพอ
- การปลูกในแปลงใหญ่เพื่อจำหน่าย
การปลูกรูปแบบนี้ เป็นการปลูกเพื่อการค้าในแปลงใหญ่ จำนวนหลายสิบต้นขึ้นไป มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อจำหน่ายผลดิบหรือผลสุกเป็นหลัก โดยเกษตรกรมักปลูกด้วยต้นพันธุ์จาการตอนกิ่งหรือการเสียบยอด เพราะสามารถให้ผลผลิตเร็วกว่าการปลูกด้วยเมล็ด
การเตรียมแปลงปลูก และหลุมปลูก
– ไถพรวนแปลง 1-2 รอบ แต่ละรอบตากดิน 5-10 วัน พร้อมกำจัดวัชพืชออกให้หมด
– ขุดหลุมปลูก กว้าง ลึก ประมาณ 50 x 50 เซนติเมตร
– ระยะห่างระหว่างหลุม และแถว สำหรับต้นจากการเพาะเมล็ดที่ 8-10 x 8-10 เมตร สำหรับต้นจากการตอนหรือเสียยอดที่ 6-8 x 6-8 เมตร
– ตากหลุมไว้นาน 3-5 วัน
การปลูก
– ปลูกในช่วงต้นฤดูฝน เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน
– โรยก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก 3-5 กำมือ/หลุม
– โรยด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ปริมาณ 1 กำมือ/หลุม
– เกลี่ยหน้าดินด้านบนลงคลุกผสม
– ฉีกถุงเพาะชำออก ก่อนนำต้นลงปลูก พร้อมนำหน้าดินลงกลบ
– ใช้ไม้ไผ่ปักข้างลำต้น พร้อมรัดลำต้นกับลำไม้ใช้พอหลวมๆ
การให้น้ำ
หลังการปลูกในช่วงแรก หากฝนทิ้งช่วงหลายวัน จำเป็นต้องให้น้ำ ประมาณวันละครั้ง จากนั้น ปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติ พอเข้าหน้าแล้งค่อยให้น้ำอีกครั้ง วันละ 1 ครั้ง จนต้นมีอายุได้ประมาณ 3 ปี ค่อยปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติ แต่จำเป็นต้องให้น้ำเพิ่มในช่วงการปล่อยติดผล
การใส่ปุ๋ย
– หลังการปลูกในระยะ 1-3 ปีแรก ก่อนปล่อยติดผล ให้ใส่ปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมีรอบโคนต้น ปีละ 2 ครั้ง อัตราปุ๋ยคอก 4-6 กำมือ/ต้น ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ปริมาณ 1 กำมือ/ต้น
– ช่วงการติดผลในปีที่ 3-4 เป็นต้นไป ให้ใส่ 2 ระยะ คือ ระยะก่อนหรือในช่วงออกดอก ด้วยปุ๋ยคอกในอัตราเดียวกันกับ 1-3 ปี ส่วนปุ๋ยเคมีเปลี่ยนเป็นสูตร 10-10-20 และระยะหลังเก็บผล ด้วยปุ๋ย และอัตราเดียวกันกับ 1-3 ปี
การตัดดอก
การปลูกในแปลงใหญ่ด้วยต้นพันธุ์การตอนหรือการเสียบยอด หลังการปลูก 1-3 ปีแรก จำเป็นต้องปล่อยให้ต้นเติบโต และแตกกิ่งจำนวนมากก่อน ซึ่งจำเป็นต้องเด็ดดอกที่ออกทิ้ง หรืออาจปล่อยให้ติดผลเพียงเล็กน้อยเพื่อรับประทาน จากนั้น ในปีที่ 3-4 ค่อยปล่อยให้ออกดอก และติดผลทั้งต้น
การเก็บผลผลิต
มะม่วงอกร่องมีอายุพร้อมเก็บผลประมาณ 110-120 วัน หลังติดผล ทั้งนี้ควรเก็บผลในระยะผลแก่หรือผลห่าม ไม่ควรเก็บขณะที่ผลสุกบนต้น เพราะผลจะซ้ำง่าย มีอายุการเก็บน้อย