ทาร์ตสตรอว์เบอร์รี เป็นเมนูขนมหวานแสนอร่อยที่เด็กๆและสาวๆออฟฟิตชื่นชอบความหวานอมเปรี้ยวของซอสสตรอเบอร์รี่ผสมกับรสชาติหวานมันของเนื้อทาร์ตและตัดกับความเค็มกรอบของแป้งทาร์ตสตรอว์เบอร์รีเป็นความอร่อยของคนที่เคยทานเมนูนี้แล้วเท่านั้นถึงจะเข้าใจโดยเมนูนี้สามารถทำเองได้ง่ายๆเพียงแค่มีอุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่างก็สามารถทำได้
ส่วนผสมทาร์ตสตรอเบอร์รี่
- แครกเกอร์ 110 กรัม
- เนยสดชนิดเค็มละลาย 80 กรัม
ส่วนผสมเนื้อครีมชีส
- ครีมชีสพักไว้ให้คลายความเย็น 250 กรัม
- นมข้นหวาน 25 กรัม
- ไวต์ช็อกโกแลตหั่นชิ้นเล็ก ๆ 35 กรัม
- วิปปิ้งครีมชนิดหวาน 150 กรัม
- เจลาตินแช่น้ำเย็นจัดจนนุ่ม 2 แผ่น
- น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมฟิลลิ่ง
- เนื้อสตรอว์เบอร์รีหั่นชิ้น 3 – 5 ลูก
- น้ำเปล่า
- ผิวเลม่อน
- น้ำตาลตามชอบ
อุปกรณ์ที่ใช้
- พิมพ์ขนม
- หม้อ
- ช้อนตวง
วิธีทำทาร์ตสตรอเบอร์รี่
- เริ่มต้นด้วยการนำแครกเกอร์มาบดให้พอแตกจากนั้นนำเนยละลายมาผสมกับเนื้อแครกเกอร์ที่เราบดไว้แล้วจากนั้นนำไปกดลงในพิมพ์ทาร์ตแล้วนำไปแช่ตู้เย็นที่ไว้ 20-30 นาที
- จากนั้นนำครีมขึ้นตั้งไฟพอครีมอุ่นจากนั้นใส่เจลาติน น้ำตาลไอซิ่ง นมข้นหวานและไวน์ช็อกโกแลตคนจนส่วนผสมเข้ากันปิดไฟเติมครีมชีสที่ทิ้งไว้ให้อุณหภูมิห้องแล้วลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากันจากนั้นนำไปราดลงบนแป้งทาร์ตที่แช่แย็นไว้จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น20นาที
- ต่อมาทำซอสสตรอว์เบอร์รี โดยนำเนื้อสตรอว์เบอร์รีมาหั่นเป็นเต๋าเล็กๆจากนั้นนำไปผัดกับน้ำเปล่าเล็กน้อยจากนั้นเคี่ยวจนเนื้อเละได้ที่ชิมรสชาติว่าออกมาพอใจหรือยังหรือว่ารสชาติอ่อนไปให้เติมน้ำตาลไอซิ่ง ถ้าเปรี้ยวไม่พอให้เติมน้ำเลม่อน จากนั้นขูดผิวเลม่อนลงไปเล็กน้อยเพิ่มความสดชื่น
- นำทาร์ตที่แช่แข็งไว้ออกมาหั่นเป็นชิ้นตามชอบโรยหน้าด้วยซอสที่ทำไว้เป็นอันเสร็จสิ้น
ประโยชน์ของทาร์ตสตรอว์เบอร์รี
- สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
- ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย
- มีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
- มีส่วนช่วยบำรุงโลหิต
- ช่วยลดความดันโลหิต