มะเขือเทศ เป็นผลไม้ที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเป็นผักเน้อจากตามความเข้าใจของคนทั่วไปว่าผลไม้ต้องมีรสชาติที่หวานนั้นเอง โดยตามลักษณะทางพฤกษศาสตร์พืชชนิดนี้นั้นถูกจัดเป็นผลไม้เนื่องจากสามารถรับประทานได้แค่ผลของมันนั้นเอง ส่วนผักนั้นจะสามารถรับประทานได้ทั้งราก ลำต้น ใบ หน่อเป็นต้นโดยมะเขือเทศนั้นถือว่าเป็นผลไมที่มีสรรพคุณเหมือนสมุนไพรเนื่องจากในตัวของผลไม้ชนิดนี้นั้นอุดอมไปด้วยไลโครปีน เบต้าแคโรทีน แคโรทีนอยด์ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งและการเสื่อมสภาพของเซลล์ภายในร่างกายมนุษย์นั้นเองปัจจุบันในวงการเครื่องสำอางได้นิยมนำสารสกัดจากมะเขือมาเป็นส่วนผสมในหลายผลิตภัณฑ์เพราะมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่น เปล่งปลั่งแลดูเป็นธรรมชาติสรรพคุณทางยาของผลไม้ชนิดนี้ได้แก่ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน เป็นต้น โดยคนไทยนิยมนำเอามะเขือเทศมาประกอบอาหารหลากหลายเมนูเช่น แกงขนุน แกงผักเฮือด ยำไข่ดาว แกงผักปลังใส่จิ้นส้ม ผัดปลาเปรี้ยวหวาน ยำวุ้นเส้น ยำหูหมู แกงเผ็ดเป็ดย่าง ขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำพริกอ่องและอีกหลายเมนู และมีบางสายพันธุ์ที่นิยมรับประทานสดได้แก่ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี การรับประทานน้ำมะเขือเทศเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างมาก และดีต่อสุขภาพผิวอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่ควรเลือกรับประทานมะเขือเทศดิบ เพราะอาจจะเป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าจะได้รับประโยชน์เนื่อจากในมะเขือดเทศที่ยังมีสีเขียวอยูนั้นมีสารพิษประเภท steroidal alkaloids ที่พบอยู่ในรูป glycoalkaloid ได้แก่ สาร alpha-tomatine เป็นหลัก และ สาร beta-tomatine ในปริมาณเล็กน้อย สารพิษนี้ มีคุณสมบัติคล้ายสารพิษ saponin คือ เมื่อเขย่ากับน้ำจะทำให้เกิดฟองและสารพิษ tomatine ออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายเป็นอัมพาต ทำให้เม็ดเลือดแดงแตก และทำให้ผิวหนัง และเยื่อบุระคายเคืองอย่างรุนแรงเมื่อสัมผัส
มะเขือเทศ ( Tomato ) ชื่อวิทยาศาสตร์ Lycopersicon esculentum Mill.จัดอยู่ในวงศ์มะเขือ (SOLANACEAE)เป็นพรรณพืชล้มลุกมีลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ยกึ่งเลื้อยแตกกิ่งก้านมาก ลำต้นสีเขียว ขน นุ่มปกคลุม และมีเมือกเหนียวมือเป็นใบประกอบ ออกสลับกัน ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน บางใบเล็กรียาว บางใบกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหยักลึกคล้ายฟันเลื่อยมีขนอ่อน ๆ บริเวณซอกใบ ดอกเกิดเป็นช่อบนลำต้นระหว่างข้อ มีกลีบดอก 5กลีบ สีเหลือง รูปร่างคล้ายหอกเชื่อมติดกันที่โคน เมื่อดอกบานกลีบเลี้ยงและกลีบดอกจะโค้งออก กลีบเลี้ยงตอนแรกจะสั้นกว่ากลีบดอก แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อผลแก่มีเกสรตัวผู้ 5 อัน ประกอบด้วยอับเรณูใหญ่และก้านอับเรณูสั้น อยู่รอบเกสรตัวเมียออกผลเป็นผลเดี่ยว รูปทรงของรูปผลมีตั้งกลมจนถึงรี มีขนาดรูปร่างและสีต่างกัน ซึ่งมีขนาดเล็กประมาณ 3 เซนติเมตร จนถึงใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตร รูปร่างมีทั้งกลม กลมแบน หรือกลมรี ผิวนอกลีบเป็นมัน สีของผลจะขึ้นอยู่กับเม็ดสี 2 ชนิด คือ ไลโคปีน(Lycopene) ซึ่งทำให้เกิดสีแดงและแคโรทีน(Carotene) ทำให้เกิดสีเหลืองแดง ส้ม และสีน้ำตาลอ่อน เนื้อภายในฉ่ำด้วยน้ำมีรสเปรี้ยว ภายในมีเมล็ดเรียง ตัวเป็นช่อง ๆ และมีเมือกวุ้นห่อหุ้มเมล็ด
การปลูกมะเขือเทศรับประทานเองสามารถทำได้ง่ายๆดังนี้ อุปกรณ์ที่ใช้:กล่องพลาสติก,ดินสำหรับปลูกต้นไม้,เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ,ปุ๋ย,ท่อพีวีซีสำหรับขึ้นโครงและบัวรดน้ำ
วิธีการปลูกมะเขือเทศ : เริ่มต้นด้วยการนำท่อพีวีซีมาขึ้นโครงกำหนดชั้นตามต้องการจากนั้นนำกล่องพลาสติกมาเจาะแค่พอให้น้ำพอไหลผ่านได้จากนั้นใส่ดินสำหรับปลูกพืชลงไปในแต่ละชั้นตามด้วยเมล็ดพันธุ์จากนั้นรดน้ำแล้วนำไปตั้งไว้ตรงบริเวณที่แสงแดดส่องถึงแค่นี้เราก็จะได้รับประทานมะเขือเทศที่สดใหม่ปลอดจากยาฆ่าแมลงนั้นเอง
สรรพคุณและประโยชน์ของ มะเขือเทศ
- ช่วยบรรเทาอาการโรคหอบหืด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
- ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์
- ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
- มีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขัด
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย
- ป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
- มีใยอาหารช่วยย่อยและทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้สะดวกมากขึ้น
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
- ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย
- ช่วยรักษาสิวอักเสบที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย
ข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศสีแดงสด ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 18 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม
- น้ำตาล 2.6 กรัม
- เส้นใย 1.2 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- โปรตีน 0.9 กรัม
- น้ำ 94.5 กรัม
- วิตามินเอ 42 ไมโครกรัม 5%
- เบตาแคโรทีน 449 ไมโครกรัม 4%
- ลูทีนและซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 0.037 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 3 0.594 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 6 0.08 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินซี 14 มิลลิกรัม 17%
- วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินเค 7.9 ไมโครกรัม 8%
- ธาตุแมกนีเซียม 11 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.114 มิลลิกรัม 5%
- ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม 5%
- ไลโคปีน 2,573 ไมโครกรัม
แหล่งที่มาอ้างอิง : ndb.nal.usda.gov
เกร็ดความรู้ : มะเขือเทศนั้นจัดว่าเป็นผลไม้ที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานกันมากที่สุด โดยนิยมรับประทานกันมากกว่าผลไม้ยอดนิยมอันดับ 2 อย่างกล้วย มากถึง 16 ล้านตันต่อปี ส่วนผลไม้อันดับ 3 คือ แอปเปิ้ลและส้ม ตามลำดับ